หน้าแรก
การเมือง
การศึกษา
ท่องเที่ยว
สังคม
อาชญากรรม
กีฬา
บันเทิง
facebook
twitter
นายกฯ อนุทิน ประกาศสงครามกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (Scammer) รวมพลังเครือข่าย ย้ำต้องชนะเท่านั้น !
Highlight
,
สังคม
6 พฤศจิกายน 2025
ให้อาชญากรรมทางเทคโนโลยีสูญสิ้นไป ให้ประเทศไทยเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยจาก “สแกมเมอร์”
.
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 เวลา 11.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding: MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
.
โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสันติ ปิยะทัต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้บริหารระดับสูงจาก 15 เครือข่ายภาครัฐที่ร่วมลงนามใน MOU ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ สมาคมธนาคารไทย และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมด้วย
.
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้รับฟังการแถลงมาตรการ และผลงานของ 8 หน่วยงาน จากนั้นได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนาม MOU พร้อมกับ “ประกาศสงครามกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (Scammer)” ว่า
.
วันนี้ คือ ก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งของประเทศไทย เป็นวันที่มีการรวมตัวกัน “ประกาศสงครามกับอาชญากรรมออนไลน์” สงครามนี้เป็นสงครามที่เราต้องชนะ เพื่อปกป้องประชาชนจากภัย Scammer ที่กำลังบ่อนทำลายประเทศอยู่ทุกวัน เพราะเมื่อหนึ่งคนเป็นเหยื่อ ครอบครัวทั้งครอบครัวได้รับผลกระทบด้วย คนจำนวนมากต้องประสบกับความทุกข์ และความเครียด ศักยภาพของประเทศถูกบ่อนทำลายจากการกระทำของมิจฉาชีพ ชื่อเสียงประเทศต้องเสื่อมเสีย ภาพลักษณ์ถูกบั่นทอน ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการค้าและการลงทุน ความเสียหายที่ซ่อนอยู่จากภัยของอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเหล่านี้ มีมากจนประเมินค่ามิได้ คือภัยแห่งความมั่นคงอันดับต้นๆ ของประเทศ
.
“ในนามของรัฐบาล ขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่รวมพลังกันมาลงนาม ในบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ สิ่งที่ลงนามในวันนี้ไม่ใช่เป็นแต่เพียง “เอกสาร” แต่คือ “อาวุธ” ที่จะใช้ในการต่อสู้กับอาชญากรอย่างเป็นระบบ เพราะนี่คือ “วาระแห่งชาติ” ไม่ใช่ภารกิจของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่เป็นภารกิจ ร่วมกันของทั้งประเทศ”
.
นายกรัฐมนตรีย้ำว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุนทุกด้าน ทั้งงบประมาณเทคโนโลยี และนโยบาย เพื่อให้การทำงานครั้งนี้ เห็นผลจริงในระยะสั้น และยั่งยืนในระยะยาวเพื่อประเทศไทยจะเป็นพื้นที่ปลอดภัยจาก scammer และเป็นดินแดนต้องห้ามของอาชญากรรม ทุกรูปแบบตลอดไป
.
โดย MOU มีจุดประสงค์เพื่อเดินหน้าปฏิบัติการเชิงรุกใน 5 ด้านหลัก คือ
1. บังคับใช้กฎหมายอย่างเฉียบขาด ไม่ว่าจะเป็นผู้กระทำความผิด หรือผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง
2. สร้างระบบประสานงานแบบบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวกรอง และการสืบสวน
3. ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องทันที ตัดเส้นทางการเงิน อาชญากรไม่ให้ใช้ประเทศไทยเป็นฐานฟอกเงินอีกต่อไป
4. ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและ AI ในการตรวจจับเส้นทางเงินและพฤติกรรมของมิจฉาชีพ เพื่อสกัดก่อนเกิดเหตุ และ
5. ที่สำคัญ คือ การสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชน ส่งเสริมความรู้เท่าทัน และการแจ้งเบาะแส เพื่อให้คนไทยทั้งประเทศ ช่วยกันเป็นหูเป็นตา และเป็นส่วนหนึ่งของทีมไทยแลนด์ในสงครามครั้งนี้
Facebook icon
Facebook
Twitter icon
Twitter
LINE icon
Line
บทความที่เกี่ยวข้อง
ขอเชิญพี่น้องประชาชนร่วมกิจกรรม “ลอยกระทงแห่งความทรงจำ” เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
เส้นทางการท่องเที่ยว กับ“พาณิชย์ชวนเที่ยว ตลาดต้องชม เส้นทางที่ 8 ภาคใต้ล่าง (สายเพชรเกษม)
เส้นทางการท่องเที่ยว กับ“พาณิชย์ชวนเที่ยว ตลาดต้องชม เส้นทางที่ 7 ภาคใต้บน (สายเพชรเกษม)
เส้นทางการท่องเที่ยว กับ“พาณิชย์ชวนเที่ยว ตลาดต้องชม เส้นทางที่ 6 ภาคอีสานบน (สายมิตรภาพ)